ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2559

หลวงพ่อพระใหญ่บ้านท่าไคร้ พระคู่บ้านคู่เมือง บึงกาฬ


                              ภาพ...เรือนธรรมแสงทาง แห่ง ปัญญา.


               .หลายๆท่าน..ที่พลัดหลง..เข้ามาอ่าน.."เรือนธรรมแสงทาง ส่อง  ปัญญา"..อาจจะสงสัยอยู่ว่า..เหตุใด...ถึงมีแต่เรื่องพญานาค..เป็นหลักหนอ.....ไม่เห็นจะมี...เรือนธรรม  เลย

.....วันนี้เกล้าฯ..เลยยกที่มา...ของชื่อ..มาลงใว้ขอรับ....เป็นเรือนของเกล้าฯ..เอง
ทำหน้าที่เผยแพร่ธรรมะ..ให้ผู้สัญจร..ผ่านมาใน ในจตุรทิศ(ทิศทั้ง  4)



.......เรือนธรรมแห่ง..นี้...สำเร็จ..ได้ด้วยดี..เพราะมีคุณพ่อคุณแม่..รวมทั้งอาจารย์ ชัชวาล ผลเยี่ยม(ครูผู้ชำนาญ) ร.ร.บ้านนาสวรรค์)..และคณะสหธรรมิก...จากทางกรุงเทพฯ..หลายท่านช่วยสนับสนุนอาทิ

..คุณปภัสนันท์   กาญจนไพบูลย์..และญาติ..คุณสาธิต..โชควนากุล..และเพื่อน

คุณรุ่ง..กิจไธสงค์(ร้านรุ่งช่างทองไทย.โลตัส.ชั้น 1 บางกระปิ)
.
พระจิรวัฒน์ ญานวโร.และหลวงปู่ดี.คัมภีโร.(วัดป่าหนองผักแว่น อ.เสรภูมิ จ.ร้อยเอ็ด)...

และเว็บพลังจิต(ห้องธรรมทาน)..สมาชิกเว็บพลังจิต.และตลอดบุคคลทั่วไปหลายท่าน..ที่มิได้เอ่ยนาม...
......ทุกวันนี้...เป็น..ห้องสมุดธรรมะเพื่อประชาชน.และ ..ศูนย์เรียนรู้ชุมชน(กศน).ของตำบลนาสวรรค์..สมเจตนา..ของทุกท่านที่บริจาคหนังสือมาร่วมบุญ...ขอรับ



สถานที่..ตำบลนาสวรรค์..จังหวัดบึงกาฬ...

1.ภาพประธาน..หลวงปู่ศุข  วัดปากคลองมะขามเฒ่า...จ.ชัยนาท.
.(เวลาจิตตื่นกลัว.ในสถานที่อันวังเวง.ก็จะภาวนาคาถา..หลวงปู่ศุข ท่านจึงเป็นพระอาจารย์ที่อยู่ในจิตในใจ...เป็นลูกศิษย์..หลวงปู่ศุข.โดยการอฐิษฐานเอา..เพราะองค์หลวงปู่มรณะตั้งแต่เกล้าฯยังไม่เกิด.)

2.ภาพที่มีนักเรียน..เป็นวัน..เปิด..เรือนธรรม..ปี 2550

3.ภาพอธิษฐาน..ทีมงาน..เรือนธรรม...กำลังจะสำรวจ..ป่าช้าผีดุ..วัดป่าหนองผักแว่น..อ.เสรภูมิ..ก็เลย.ขอขมา.สถานที่..ตามติด..ด้วยภาพกลางป่าช้า..ที่รกร้าง

4.ภาพ..บริเวณ..วัดป่าหนองนกเขียน.บ้านหนองตอ..ต.นาสวรรค์.เกล้าฯพา.สหธรรมิก..ไปเที่ยวกุฏิในป่าช้า..ที่ตั้งอยู่กลางป่าอันโดดเดี่ยว..(เกล้าฯเคยมา.วิเวก.สมัยบวชพระ..ครั้งแรก..แต่ทุกวันนี้ กุฏีนี้ได้..ถูกรื้อ..และออกแบบสร้างใหม่..เพื่อปรับภูมิทัศน์...ให้ดูหลีกเร้นยิ่งขึ้น...ล่าสุดปี62เกล้า..ไปสำรวจ...หลังกุฎี..เป็นป่าทึบ..วังเวงน่ากลัวกว่าเดิม หลายเท่า..และที่สำคัญ..ต้นไม้มนเขตวัด..เติบใหญ่สถานที่ ดูน่าเกรงขามกว่าเดิม)

ภาพ..ชาวกรุงเทพฯ.ที่นำหนังสือมาบริจาคเรือนธรรม..ปี2554..นำทีมโดย

1.อากู๋.ผมยาว..กางเกงยีน..เสื้อสีน้ำตาล
2.ภรรยาอากู๋.ใส่ยีน ถือกล้อง..สะพาย..กระเป๋า
3. คุณยาย.ของกุ๋งกิง..ยืนกอดอก
 4.คุณปภัสนันท์ .กาญจนไพบูลย์..เสื้อขาว..กางเกงดำ
5.น้องกุ๋งกิง.(.วัยรุ่น)..เสื้อดำ..กางเกงสีน้ำเงิน

 6..และคุณสาธิต โชควนากุล เสื้อดำ.ขอบขาว..กางเกงยีน.

....ทั้งหมด..กำลังพิจารณา..สถานที่อันสัปปายะ..ในป่าช้า..วัดป่าหนองนกเขียน

ก่อนไปอยู่วัดแห่งนี้..เกล้าฯเคย..กราบเรียน..ท่านเจ้าอาวาสว่า..ถ้าหาก.กระผมได้บวช..จากบ้านนาสวรรค์..แล้วจะมาขออยู่วัดป่า..จะมีกุฎี.ว่างไหมครับ

....เจ้าอาวาสวัดป่าหนองนกเขียน..ถามว่า.โยม.เป็นคนย้านผีบ่
...เกล้าฯตอบว่า..เรื่องผีอย่า..ไปเว้า..ถึงเลยครับ
(ความหมาย..ของผู้ตอบ..กลัวมาก..อย่าได้เอ่ย..คำว่า ผี หรืออย่า พูดถึงเลย

แต่ท่าน เจ้าอาวาส ไม่เข้า ความหมาย คิดว่า ไม่ กลัว

....เจ้าอาวาส...อืมม..

....ก็เลย..จัดให้ไปอยู่..ในป่าช้า..กอปรกับ..กุฏีอื่น..ไม่ว่าง.....จึงเป็นครั้งแรกของชีวิตเลย..ที่ได้ไป..เจริญสมณะธรรม..ในป่าช้า...

ทุกวันนี้..เกล้าฯ..ยังไม่ได้อธิบาย..ให้ท่านเจ้าอาวาสฟังเลย......ว่าเกล้าฯ.นั้น..กลัวมาก...

...แต่ก็อยู่ที่นั้นได้..ครึ่งเดือน..ก่อนจะไปวิเวกติดตาม..พระเถระผู้เป็นพระอาจารย์..ทางโคราช..เพื่อศึกษาข้อวัตร.และ..ปฏิบัติ..ยิ่งๆขึ้นไป...

ที่สามารถอยู่ป่าช้า..ท่ามกลางความกลัวระดับขีดแดง.....มีเคล็ดลับ..ดังนี้..

1.ผูกความเป็นญาติ...กับผี....โดยการ..เอาบุหรี่..ที่ชาวบ้านนำมาถวาย...ตอนออกจากโบสถ์..ในวันบวช....นำไปวางไว้..ณ ที่ใต้ต้นไม้...แล้วกล่าวดังนี้...

   ที่ลูกมาอยู่ที่นี้..ลูกขอเป็นลูก.ในบ้าน.เป็นว่านในสวน.ขอเป็นลูกเป็นหลาน..ลูกมาสร้างบุญ..สร้างกุศล..ขอคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ในที่แห่งนี้...ได้โปรดเมตตา..ช่วยรักษาลูกด้วย..ถ้าหากลูกสร้างบุญได้..ก็จะแบ่งปันให้ทุกท่าน..ที่อยู่..ณที่แห่งนี้
.
....พระพุทธเจ้ากล่าวว่าในสังสารวัฏนี้..ยืดยาว..บ่มีผูได๋ดอก..ที่บ่เคยเป็นพี่เป็นน้องกันมาก่อน...
..เทพยดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์.ในที่แห่งนี้..จงช่วยรักษาลูกช้างด้วย..

..ปกติคำว่าลูกช้าง..เกล้าฯ.ก็น้อยครั้งที่จะกล่าวคำนี้....กล่าวเสร็จ..ก็รู้สึกอายผี..เหมือนกัน...แต่เพื่อความเป็น..สมานฉันท์..กับเหล่าภูตผีปีศาจ..จึงจำเป็นต้องเอ่ย...เพราะที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ธรรมดาเหมือนกัน......ตามคำบอกเล่า.ของเจ้าอาวาส.องค์ก่อนและองค์ปัจจุบัน

คือพูดอะไรก็ได้..ให้ผีทั้งป่าช้ารู้สึกเห็นเป็นภาพ..กันไปเลย..ว่าขณะนี้..ลูกชายในอดีตชาติ..ของพวกเขา..ได้มาอยู่เพื่อเกื้อกูล..มิได้บังอาจ..ที่จะลบหลู่สถานที่..ที่มีอาถรรย์แต่อย่างใด
.......วรรค....
ของที่ให้..คือน้ำใจ..จะมากจะน้อย..ก็ได้..ถ้าไม่มีอะไรเลย..ก็จงกล่าว.แต่.ปิยวาจา.เถิด

วิชานี้..ได้มา..จากหลวงปู่จันทร์.อรรคธัมโม...ผู้ชำนาญทางวิทยาคม... ท่านได้สอนสั่งไว้..สมัยไปเป็นลูกศิษย์หลวงปู่จันทร์..แห่ง..วัดต้นไทรย์..กรุงเทพฯ
ตามภาพอุปสมบทครั้งแรก..ที่วัดบ้านนาสวรรค์  จ.บึงกาฬ-หลวงปู่จันทร์ อัคคธัมโม(ยืนหลังสุด)
 หลวงพ่อสุวิช แห่ง  เป็นหลวงพ่อที่ถูกอุปนิสัยกับเกล้าฯ.และรับใช้ท่านบ้าง.บางโอกาส(หรือรับใช้ท่านเนืองๆ.).แห่งวัดต้นไทรย์ กรุงเทพฯ (ใส่แว่นตา)..**องค์หน้าตาเหมือนคนอินเดีย คือเจ้าอาวาส วัดบ้านหนองกอก เดินทางมาจาก อ.ประทาย มาร่วมงานบวช ลูกศิษย์ผู้เลี้ยงมาแต่เด็ก...ส่วนสองตายาย..เป็นบิดามารดา..เกล้าฯเอง..ขอรับ..
***สาเหตุที่บวช..อยากปฏิบัติธรรม...ทุกครั้งที่บวช..มีเหตุผลเดียว..ขอรับ.***พระอาจารย์ท้้ง 3 รูป เกล้าฯมิได้กล่าวนิมนต์ให้ท่านมา เนื่องด้วยทุกท่านล้วนแต่.อยู่ในวัย.ชราภาพ..ไม่เหมาะแก่การเดินทางไกล.แต่ด้วยความเมตตา..ของท่านทั้ง 3 ที่มีต่อศิษย์.,ท่านจึงเอ่ยปาก.จะมาร่วม.และเกล้าฯจึงกราบอาราธนา.ด้วยความยินดี

2.วิชาที่สอง..คือวิชา..มหาสติปัฏฐานสูตร..หรือ.มหา.สติปัฏฐาน4
ซึ่งมี..กายานุปัสสนา  เวทนานุปัสสนา....จิตตานุปัสสนา..และธรรมานุปัสสนา
.
และอุปกรณ์ทั้งหลายที่ใช้..ว่าด้วยการไม่ส่งจิต..ออกนอก....ให้ส่ง..ไว้ที่กาย..มีสติกำกับ...ยก..ย่าง..เหยียบ...ก็สักแต่ว่ารู้...เหลียวซ้าย.แลขวา.ก็ให้รู้
เท้าที่เหยียบไป..อ่อนนุ่ม..หรือแข็งก็ให้รู้....ฯลฯ
....โชคดี...ที่ก่อนมาอยู่ป่าช้าแห่งนี้..ได้ไปอบรม....ปฏิบัติธรรม....ที่...ธรรมสถานว่องวานิช จ.สมุทรปราการ...

โดย.คณะอาจารย์วิปัสนา.ลูกศิษย์ พระอาจารย์ มานพ อุปสโม..คือ.พระอาจารย์มหาปัญญา. จาก.ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ๘๔ พรรษาราชนครินทร์ อแก่งหางแมว จ.จันทบุรี


3.อฐิษฐาน...เรียกหา..ผีแม่นาคพระโขนง.ชึ่งเป็นผีมีชื่อเสียงระดับประเทศ...และผีที่เฝ้ากุฏิ..ให้ช่วยรักษา

4.ภาวนา..เจริญเมตตา..

5.สวดมนต์..รอบที่สอง..หลังทำวัตรเย็น..ชนิด.จนกว่า..จะมั่นใจ..ว่าปลอดภัย..จึงค่อย..หลับตาเพ่งพิศ..สงบจิต..สำรวมเนตร...(จำวัด)..


    เหตุผล..ที่เรียกหาผีแม่นาค....เพราะเคยฝันเห็นผีแม่นาค.อุ้มไอ้แดง.(หรือพ่อแดง..ก็ได้เพราะแม่นาคตายมานานแล้ว)มาหลอกหลอน....จากครั้งแรก..ก็ขนหัวตั้งทางความฝัน.หลายครั้ง..
ทุกๆครั้งก็กลัวหัวใจแทบหยุดเต้น

.แต่ครั้งสุดท้ายก่อนมาบวช..ฝันเห็นผีแม่นาค..ท่านไม่ได้มาหลอกเหมือนแต่ก่อน..และในฝันก็ไม่รู้สึกกลัว.....
     และมาอยู่ที่วัดแห่งนี้..ก็ไม่รู้จักผีที่นี้มาก่อน..รู้อย่างเดียวที่นี้ผีดุ....
.ด้วยเหตุนี้.จึงเรียกหาผีที่เป็นกัลยาณมิตร.รู้สึกไว้วางใจ.ให้ช่วย..เพราะมีเหตุ..ที่จะต้องเดินออกจากกุฎีตอน..ตีสี่ครึ่ง..ทุกวัน..เพื่อไปทำวัตรเช้า...ที่ศาลาใหญ่..และตอนเย็น...หลังทำวัตรเย็น..เสร็จทุ่มครึ่ง(...หรือหนึ่งทุ่มไม่แน่ใจ.....)
..............เวลาเดินกลับกุฎี..ไม่ไว้วางใจ..ผีตายโหง..สองศพ..ที่โบกปูนอยู่ข้าง..ทางเดินในป่าช้า..ส่วนผีตายเก่า..ไม่กลัวเท่าผีตายใหม่ๆ...

คติ..ที่ได้จากป่าช้า..วัดป่าหนองนกเขียนคือ...มีผีเป็นเพื่อน .ดีกว่ามีเพื่อน.ผี.. ผี
จริงหรือ...
เขียนใหม่....
...
ได้ความสุข...อันเกิดจาก...
กายวิเวก...
จิตวิเวก...
....มันเป็นความสุขที่แปลกประหลาด...
แต่ก็มี..เรื่อง..
น่าหวาดเสียวหลายครั้ง...อาทิ..
...บ่ายวันหนึ่ง...ได้ศึกษา..หนังสือประวัติหลวงปู่หลอด  ปโมทิโต  ที่มีเนื้อหา....
ผีในป่าช้า..มาร้องเรียกแม่ชี..ที่กุฎี..
ซึ่งจากเรื่องเล่าอันลี้ลับ..และชวนพิศวงนี้...ทำให้เกล้าฯต้องปิดหนังสือ...
และสำรวจบรรยากาศ..โดยรอบ..
เพราะรู้สึก..ไม่ไว้วางใจ...และหวั่นหวาด..ไปชั่วหลายนาที...
ได้แต่ปรึกษา..ตัวเองว่า...เราไม่น่า..
นำหนังสือเล่มนี้...มาอ่าน..ในช่วงเวลานี้เลย....
..
วรรค.......


ภาพกุฏี..กลางป่าช้า..วัดป่าบ้านหนองผักแว่น..หนึ่งปีต่อมา.เกล้าฯ.....ไปวิเวก..คนเดียว...คืออยาก..มาอีกครั้ง..ปี 2554....

                                           
....




..กาลต่อมา.เกล้าฯ..ได้ไปบวช..ที่วัดถ้ำกองเพล..จ.หนองบัวลำภู..(บวชครั้งที่.2.ปี  2557)
...ก่อนที่จะจาริก..ไปวิเวก..ที่..วัดลานธรรมวิสุทธิมงคล..ต.นาสวรรค์ ..จ.บึงกาฬ

...วัดลานธรรมวิสุทธิมงคล 
.


ภาพนี้..ไปปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติในหลวง..งานบุญปริวาสกรรม.วัดบ้านหนองบัวน้อย..อ.ประทาย.จ.นครราชสีมา(บวชครั้งแรก.ปี2551)


                                     .  วันที่ 13 พฤศจิกายน.ปี 2558..(บขส.ขอนแก่น)..
.หลังจาก..ไปหาเจ้าแม่นาคี...และพ่อศรีสุทโธนาคราช..ที่จังหวัดหนองบัวลำภู..ในการไปถ่ายภาพพญานาคครั้งนี้..ไปเพื่ออยากจะทดสอบบุญกุศลเก่าในปางหลัง.ว่า.ยังจะได้เจอท่านพญานาคไหมหนอ....และ..ในปี 2559...
                   เริ่มตั้งแต่ต้นปี...ก็ตระเตรียมซื้ออุปกรณ์ถ่ายภาพ..ตัวใหม่..ที่ดีกว่าเดิม..มีความพยายาม.2 ครั้ง..ช่วงสงกรานตร์..และเดือน..สิงหาคมที่ผ่านมา..แต่ก็ยังติดขัด..ไม่สะดวก..ในการเดินทางไปเก็บภาพ...ไปหาดูตาม..สถานที่อื่นๆ...ก็ไม่ปรากฎ....

แต่ที่จังหวัดหนองบัวลำภู.นี้..ท่านพระญานาค..ท่านมาปฏิบัติธรรม.รักษาศีล..เที่ยววิเวก...

           ....เกล้าฯเอง..เคยเดินทางไปเมืองคำชะโนด..อ.บ้านดุง.เมืองพญาศรีสุทโธนาคราช.ตอนนั้น.หวังในใจ.ลึกๆ..ว่า..คงจะได้เห็น..เหล่าพญานาค..ก็ไม่ได้เห็น...อาจเป็นเพราะไปกับหมู่คณะ..หรือเหตุใดก็ไม่ทราบ...
             ....อนึ่ง..ที่คำชะโนดผู้คน..จอแจ..คนมุ่ง..คือ..มุ่งที่จะมา..เพื่อจะสัมผัส.
.สักการะผู้เป็นจอมนาคินทร์......ส่วนใหญ่จะมา..ขอโชค.ขอลาภ..ถูฆ้องเสี่ยงบารมี..ขัดต้นไม้..หาหวย...

ด้วยเหตุนี้....จึงเลือกที่จะไปยัง..จุดที่หลวงปู่ขาว อนาลโย..ได้กล่าวไว้ในอดีต...อีกครั้ง..


แต่...คุณพ่อคำผิวของเกล้าฯ..ท่านกล่าวเตือนว่า!!
      เฮาว่า.เซาสา..เซาไปหาเบิ่งสา..พญานาค..ให้ตั้งหน้า..ทำมาหากิน..พุ้นน๊า!,!

แปลจากภาษาอีสาน..เป็น.ภาษาอีสาน.หมายถึง..บ่คือ..หรือ..

การไปเที่ยวหาดูสิ่งลี้ลับ..ไม่ใช่ทางเจริญ..ของชีวิต..มันเสียเวลา...
....แต่ถึงกระนั้น..ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา...ก็พยามยามที่จะไปให้จงได้...เพื่อไปกราบคารวะ.พ่อแม่ครูบาอาจารย์..ที่วัดถ้ำกองเพล..ด้วย..

....แต่ในวันที่จะไปก็เกิดเหตุ..พายุฝน..ตกต่อเนื่องหลายวัน..

..ด้วยเหตุนี้..ภาพถ่ายติดพญานาค..ปี 2559..ก็เลยชะงักไป 2 รอบ.....ขอรับ...

                      ปฐมฌาน..เขียน


ระเกะระกะ..ปกิณกะธรรม

23 มกราคม 2561


ภาพบุคคลสำคัญผู้มาร่วมสร้างห้องสมุด..และเผยแพร่ธรรม.ที่บ้านเกล้าฯ

1.หลวงปู่ดี  คัมภีโร เจ้าอาวาสวัดป่าหนองผักแว่น
2.พระจิรวัฒน์  ญาณวโร จากวัดป่าหนองผักแว่น อ.สมรภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

3.อ.ชัชวาลย์. พลเยี่ยม. ครูโรงเรียนตำบลนาสวรรค์
4.คุณ สาธิต  โชควนากุล. สหธรรมิก ชาว จ.กาญจนบุรี
5.ครอบครัว..กาญจนไพบูลย์.สหธรรมิก.ชาวกรุงเทพมหานคร
อาทิ.พี่ปภัสนันท์..น้องกุ๋งกิงและยายของกุ๋งกิง..


6.นักเรียนจากโรงเรียนบ้านนาสวรรค์  (ส่วนหนึ่ง..)
ภาพทั้งหมดคือ..ภาพเก่าฝุ่นเกรอะ...ตั้งแต่ เดือนมีนาคม  2553
แต่ที่นำมาเล่าให้ปรากฎ..เพื่อเชิดชู...เท่านั้น..ขอรับ

ในการเผยแพร่ธรรม...ทั่วทุกหัวระแหงในพื้นที่ตามกำลัง...ล่าสุดช่วงกาลบุญกฐิน..พ่อคำผิว  ได้นำหนังสือไปถวายวัดป่าดงคำพุ  เขตบ้านนา.งวง.สุ่ม อ.โซ่พิสัย    จ.บึงกาฬ(เป็นการถวาย.ครั้ง.ที่ 2.ปี2560)

ณ ปัจจุบัน หนังสือทางเรือนธรรม.ก็ลดจำนวนน้อยกว่าเดิม..เป็นอันมาก.
นั้นเป็นความต้องการของบิดาและเกล้าฯ..เองขอรับ..ที่จะกระจายหนังสือธรรมะให้ครอบคลุม..ให้พระภิกษุและบุคคลทั่วไปได้ศึกษา
...

12 มีนาคม 2561
ทุกวันนี้...บ้านของเกล้าฯ..เป็นที่อ่านหนังสือของ  กศน. ของชุมชน..เนื่องจากครู กศน. ขอพื้นที่ในการวางหนังสือ....จึงติดเป็นป้าย..กศน. แทน

10เมษายน 2561




 บ้านหนังสือชุมชน กศน. ตำนาสวรรค์ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

20 เมษายน 2561


รุ่ง  กิจไธสงค์(รุ่ง)

ผู้อยู่เบื้องหลัง..ในการเผยแพร่ธรรม..มีหลายท่าน..แต่ขอเอ่ยเพียง 3 ท่าน
อาทิ ..คุณ.อุษาวดี..เจ้าของห้างโซโฮ.(ไม่ทราบสาขา).เคย.เป็นอาจารย์สอน..ที่เตรียมอุดมศึกษา..ท่านเป็นนักปฏิบัติธรรมอันเลิศ..เคยอยู่ป่าช้า..
แต่อยู่เป็นหมู่คณะ..เว้นระยะ..ห่างรอบหลุมศพ..เพื่อให้เกิดความตื่นเต้น..เป็นลูกศิษย์สายพระป่า..ท่านผู้นี้..
ได้มอบหนังสือ..ให้เกล้าฯ..ไปเผยแพร่..เป็นอันมาก..

นันทภรณ์คลีนิคแพทย์แผนไทย
...หรืออาจารย์หญิง..นันทภรณ์ โสภะ..ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ..ทางด้านมหาสติปัฏฐาน 4 จากยุวพุทธ
(เคยเป็นวิทยากร.ของยุวพุทธ)
ท่านเป็นผู้..ส่งเกล้าฯไปปฏิบัติธรรมที่ธรรมสถานว่องวานิช..ท่านเป็นผู้เผยแพร่ธรรมะ..และสะสมหนังสือธรรมะ..ได้สละหนังสือธรรมะเป็นอันมาก..ให้เกล้าฯไปเผยแพร่

แต่มีท่านผู้หนึ่ง..เป็นมหาอุบาสก..นาม..รุ่ง กิจไธสงค์..
ท่านผู้นี้แหละ..เป็นผู้ขวนขวาย..ในกิจอันเป็นบุญ..ของคนอื่น...
เกล้าฯ..เอง..ไม่เคยชักชวน..
ไม่เคย..ขอหนังสือ..จากท่านแม้แต่ครั้งเดียว...แต่เกือบ 10 ปี..มีแต่..พี่ท่าน.(สหธรรมิก). 
เป็นผู้ .คอย.สนับสนุน..
...แรกเริ่ม..ก็รู้สึกตกใจ..ที่พี่ท่านมีหนังสือ.ธรรมะมาให้..
เพราะดูแต่ภายนอก..มีแต่อัญมณี.เพชร.มรกต..เครื่องประดับ..ไม่น่าจะมีหนังสือธรรมะ
จึงทราบภายหลังว่าพี่ท่าน..ไปเขียน.ขอรับบริจาค..
..เมื่อท่านเห็นว่าเกล้าฯเพียงพอแล้ว...แต่งานเผยแพร่..ก็ให้ทำต่อไปในนาม..เรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา
ท่านจึง.อาสา..ที่จะนำหนังสือเหล่านั้น..ไปเผยแพร่..ถวาย..วัด.ทางภาคเหนือ...ที่อยู่ห่างไกล.
ท่าน.มานพผู้นี้..เป็นผู้ชอบให้ทาน.สร้างศาลาพักริมทาง..รักษาศีล 5 รักษาศีลอุโบสถตามกาล..ท่านเป็นผู้เบื่อหน่าย.ในสังสารวัฏ..ชอบปฏิบัติภาวนา..
วิเวกสถาน.ของท่าน.อยู่ที่.ห้างโลตัสบางกระปิ..ชั้นหนึ่ง
(ชื่อร้าน..รุ่งช่างทองไทย.)

เนื่องจาก..มีหนังสือ..เป็นอันมาก..
จึงเป็นเหตุให้สามพี่น้อง..
.คือ.เกล้าฯ..และคุณสาธิต  โชควนากุลและพี่ปภัสนันท์  กาญจนไพบูลย์
..จึงร่วมกันเหมารถตู้..คันใหญ่..เพื่อขนหนังสืออันมหาศาล..หลายสิบลัง..ไปที่เรือนธรรม..จังหวัดบึงกาฬ..

และผู้อยู่เบื้องหลัง..กระจายธรรมะ..ไป 4 อำเภอ 11 โรงเรียนและวัดวาอาราม..ที่ใกล้เคียง..คือ.พ่อคำผิว-แม่สรวง พี่ชายพี่สาว..และเหล่าญาติ..พอนำไปเผยแพร่หลายแห่ง..ก็อาจไม่เยอะ.
.แต่..
ธรรมทานทั้งหลาย..ที่เผยแพร่ไปด้วยจิตอันกุศล.
.ที่เปี่ยมมากล้นแห่ง.ศรัทธา..
จะเท่าใด..ไม่มีคำว่าน้อย..ขอรับ..

ปภัสนันท์  กาญจนไพบูลย์(บริ๊ง)
เป็นผู้รวบรวมหนังสือธรรมะมาเผยแพร่ที่เรือนธรรมเป็นอันมากและเป็นนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน..นั่งสมาธิ..วันละนิดหน่อย
..(วันละ.1 ชั่วโมง.เป็นปกติ)
..เคยไปเจริญสมถะภาวนา.(สมถะหมายถึง..การทำสมาธิ)..
ที่โดม..กลางป่าช้า..วัดป่าหนองผักแว่น..อ.เสลภูมิ.

สาธิต  โชควนากุล(เก่ง)
เป็นผู้รวบรวมหนังสือธรรมะจากสมาชิกเว็บพลังจิต(ห้องธรรมทาน).มาเผยแพร่ที่เรือนธรรมเป็นอันมาก...และเป็นนักปฏิบัติธรรม..ที่หาได้ยาก..เพราะ
เคยลางานที่กรุงเทพฯ..เพื่อมาเจริญพระกัมมัฏฐาน...ที่วัดดานลานหินแตก..(ลานธรรมวิสุทธิมงคล). .บึงกาฬ
ครั้งนั้น..เกล้าฯ.เป็นพระ..จึงพาเดินจงกรม..เริ่มปฏิบัติตั้งแต่ตี 3 ทุกวัน..
แต่ถ้าพิจารณา..กันตามจริง..สาธิตอุบาสก..มาช่วยเตือนสติ..มิให้เกล้าฯประมาท..ในการปฏิบัติ..จึงจะควร..เพราะมันทำให้เกล้าฯตื่นตัว..ต้องตั้งนาฬิกา.ปลุกให้ตื่น.มิให้คลาดเคลื่อน..
..
ก่อนที่จะมาร่วมปฏิบัติ..สาธิตอุบาสก..เคยไปวิเวก..ที่วัดถ้ำผาปล่อง...อ.เชียงดาว
..จ.เชียงใหม่
เคยไปทำจิตภาวนา...ที่โดม..กลางป่าช้า..วัดป่าหนองผักแว่น...อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

24 มกราคม 2561
การคิดเผยแพร่ธรรมของเกล้าฯ..เดิมที..คิดจะทำคนเดียว..ไม่คิดจะร้องขอ..ท่านผู้ใด..ด้วยเหตุ..มีอุปนิสัย
.ขนขวายน้อยทำเท่าที่มี.ตามจำนวนหนังสือธรรมะ..ที่ตัวเองชอบซื้ออ่าน..สะสม.เกือบ 30 เล่ม...และคิดจะซื้อเพิ่มนิดหน่อย
แต่..
ท่านพระอาจารย์จิรวัฒน์ ญาณวโร..พระสหธรรมิก..ที่คุ้นเคยได้กล่าว...ทักท้วง.ว่า..
ฮ้วย..ศักย์ศรณ์..คันสิเฮ็ด..
กะให้ผูอื่น..สร้างนำแนแหม๋..
ท่านจึงบอกบุญ..ไปที่น้องเก่งกับพี่บริ๊ง
และได้บริจาคหนังสือสมทบ..เพื่อใช้ในการเผยแพร่..เป็นอันมาก
สถานที่ วัดป่าหนองผักแว่น

พระญาณวโร ภิกขุ
ท่านเป็นพระที่มีความมุ่งมั่นในการทำนุบำรุง.พระพุทธศาสนาสร้างวัดป่าหนองผักแว่น..ให้มีความเจริญรุ่งเรือง..เป็นอันมาก..และท่านยังเป็นแสงประทีปส่องชีวิต...ให้แก่เด็ก..และผู้ยากไร้..ทั้งในอดีต.และปัจจุบัน..ท่านมีผลงานแจ้งประจักษ์ตามสื่อข่าวหนังสือพิมพ์และสื่ออื่นๆ..

สถานที่วิเวกของท่าน..อยู่ที่ป่าช้าวัดป่าหนองผักแว่น..อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด

ในการเผยแพร่.ธรรมะที่เกล้าฯจัดทำ..ท่านพระญาณวโรภิกขุ..ท่านเป็นผู้มีอุปการะมาก..ตั้งแต่ริเริ่ม..จนวันเปิดโรงธรรม..ท่านก็ร่วมเดินทางมา..ท่านจึงเป็น..ผู้สร้างเรือนธรรมแสงทางแห่งปัญญา..โดยแท้จริง.ขอรับ

วันที่ 25 เมษายน 2561

**ท่านพระอาจารย์ญาณวโรท่านเคยเป็นพระพี่เลี้ยง..และเป็นผู้ให้เส้นทางพระกัมมัฏฐาน..ให้กับเกล้าฯ..เมื่อครั้ง..ไปถือบวชเนกขัมมะ.(รักษาศีล 8)
..เที่ยววิเวก..ป่าช้า...
คือท่านพระอาจารย์..ได้ร้องขอให้..โยมอุบาสิกา..ของวัด...ทำความสะอาด..กวาดใบไม้..รอบกุฎี..กลางป่าช้า...
(อันนี้.อุบาสิกาชาวบ้าน..เล่าให้ฟัง.ภายหลัง)..

.."ศักย์ศรณ์..นี้เด้อ..ที่ทำสมาธิ...ยามกลางคืน.."
เกล้าฯ..เห็น..ก็ตกใจ..กับแคร่ยกพื้น..ที่ถูกปลูกสร้าง..ด้านหน้าหลุมศพผีตายโหง..ที่กลางป่าช้า โบราณ..ที่มีป้ายวิญญาณ..จำนวนมาก.
เกล้าฯเห็นภาพเบื้องหน้า.ก็ได้แต่อุทาน..โอ้โห!! ในใจ...
แต่..เกล้าฯ..คิดว่า..เกล้าฯพึ่งมาใหม่..จะให้มานั่งหน้าหลุมศพในยามวิกาล..ก็เกรงผีจะหักคอ...และก็ไม่มีกิจที่จะมาเรียกผี.เพื่อ.ลนน้ำมันพราย.ด้วยเหตุนี้....เกล้าฯหรือ..จะกล้า..ทำตามคำ.ชี้แนะ..ในหนทางแห่งพระนิพพาน..เส้นนี้..
เพราะ..อารมณ์..กัมมัฏฐาน..มันเกิดทุกขณะ..อยู่แล้ว..เพราะกุฏิที่พัก.ก็อยู่ใกล้..หลุมศพผีตายทั้งกลม..ที่มีเคียว..วางใว้บนหลุม..
วรรค.....
"..ศักศรณ์...ตรงกลาง..ป่าช้า..มันเป็นเมืองเก่า..เมืองบังบด.ชุมแม่ออก(กลุ่มอุบาสิกา)..ไปเก็บเห็ด..ในป่าช้า..ยังพากันแล่น.(วิ่ง)..เพราะได้ยินเสียงเด็ก..ร้องให้.."
..เรื่องเล่า..ความเป็นมาหนหลังของป่าช้า..ถูกเปิดเผย..ในตอนค่ำของคืนวันที่ 3 ที่กุฏิท่านเจ้าอาวาส..
สาเหตุ...ตอนบ่าย..ในวันที่ 3 แห่งการวิเวกที่ป่าช้าอันร่มรื่น..
ขณะที่เกล้าฯ..กำลังขาดการภาวนา.(เผลอ.สติ)..ได้มีลมพัดเย็นๆ..มาหนึ่งวูบ.พร้อมได้ยินเสียงเด็ก..ร้องให้จ้า..อุแว๊!!!ๆๆ.ร้องอยู่นาน.
เกล้าฯ..ได้ยิน..ก็พลันนึกว่า..มีหญิงชาวบ้านอุ้มเด็กเดินผ่านป่า...หรือ.?..แต่ไม่เคยคิดเรื่องผี..พอเกล้าฯไม่คิดว่าเป็นเสียงผี..เสียงนั้นก็เงียบ...(เพราะไม่เคยได้ยินเรื่องเล่าที่ไหนว่า..ผีหลอกตอนกลางวัน..มาก่อน..)
...
หลวงปู่ดี..ท่านเจ้าอาวาส..จึงกล่าวเสริมว่า...ในตอนดึกๆ..ที่กุฏีกลางป่าช้านั้น..จะมีคนขว้างก้อนหิน..ใส่หลังคา..ให้ระวังด้วย..พระพี่เลี้ยงก็กล่าวเสริม..ว่าเป็นจริง
วรรค..
ฝ่าย..พระพี่เลี้ยง..เห็นเกล้าฯ..กำลังหวั่นหวาด..หน้าซีด..ก็เลย..มีความหวังดี..จะเล่าความเฮี้ยน!!!..เพิ่มขึ้นอีก...
..เกล้าฯ.หวาดกลัว.ก็เป็นฝ่าย..ร้องทัดทาน..ว่าหลวงพี่..พอเถอะอย่าเล่าอีกเลย...เดี๋ยวคืนนี้ผมกะสิไปนอนยุ...
....
ที่รีบห้าม..เพราะเกรงสติตัวเอง.จะเตลิด...แค่หลวงปู่เล่าว่าดึกๆ..จะมีคนขว้างก้อนหิน.ใส่หลังคา..เกล้าฯก็คิดว่า..คนที่ไหนจะมาดึกๆ..ในป่าช้าหนอ..
...
ว่าแล้วก็ชำเลืองมองนาฬิกา.บอกเวลาจวนจะทุ่มครึ่ง..ก็เกิดกลัว..ถ้าหากดึกกว่านี้.เกรงจะไม่กล้าเดินเข้าป่าช้า..จึงรีบ..กราบขออนุญาติท่านเจ้าอาวาสและพระพี่เลี้ยงเพื่อไปตั้งหลัก..ตั้งสติ...ในป่าช้าก่อน...
เพราะสถานที่ป่าช้าแห่งนี้..ไม่ธรรมดาเสียแล้ว...คว้าได้ไฟฉายเพื่อนคู่ทาง.จึงรีบเร่งรุด..ไปที่กุฏีกลางป่าช้า.ใต้ต้นไม้ใหญ่เพื่อน.คู่ยาก..
....
2 พฤษภาคม 2561..

สถานที่ สวนสุขภาพร่มเกล้า

ศักย์ศรณ์  สุวรรณ์..(สยาม)

นะ  เมตตา
โม  กรุณา
พุท  ปราณี
ธา  ยินดี
ยะ..เอ็นดู
เมื่อความกลัวเข้าถาโถม..ก็เร่งภาวนาจิต..ของตนเอง..เป็นคำบริกรรม..คาถา เมตตา...เพื่อขอความเมตตา..ต่อเทพยดาฟ้าดิน..และสิ่งศักสิทธิ์ที่อยู่ในวัดป่าหนองผักแว่น..ให้คุ้มกันภยันตราย..จากสิ่งที่มองไม่เห็น..ยามราตรี..


เมื่อไปถึงที่พักก็ประกาศย้ำธัมมะเภรี..ธัมมจักกัปปวัตนสูตร..ให้อุโฆษณ์.อุโฆษณาการ..หลังกล่าวธชัคสูตร..ว่าด้วยธงอิติปิโส.ธงแห่งพระรัตนะตรัย..ถัดจากนั้น..ได้บริกรรม..คาถาเมตตา..อีกครั้ง..
เพื่อให้จิตอยู่คำบริกรรม...ไม่ส่งจิตออกนอก
.แต่ถ้าหากจิตตนเอง..ยังตื่นกลัว...จะตวาดป่าช้า..ด้วยคำว่า..
ออแอ..อออา..เมตตา พุทโธ..(คาถาเมตตา.หลวงพ่อจำเนียร.วัดถ้ำเสือ..)..
เกล้าฯนำมาตวาดผี...
เมื่อกล่าวคำ.นี้สัก.สองสามคำ..(ไม่เกิน 3 ครั้ง)..ก็จะภาวนา..คาถาเดิม...ที่เน้นภาวนาคาถานี้...จำมาจากหนังสือสามเณร.เดินธุดงค์..เจอพระลึกลับกลางป่า...มาสอนคาถาให้..แล้วอันตธาน..หายไปอย่างลึกลับ..ก่อนหายตัวไปพระภิกษุ..ได้กล่าวเตือนสามเณรใว้..ว่าให้จำคาถานี้ใว้..ใช้ในคราวคับขัน..จะช่วยได้...เกล้าฯก็ท่องจำทันทีนับตั้งแต่วันที่ได้อ่าน..เพราะพิจารณา..ถึงภาษา..ที่รำลึกถึง.ความเมตตา.ของ.พระพุทธเจ้า 4 พระองค์
(ในภัทรกัปป์นี้)
กับพระโพธิสัตว์ อีกหนึ่ง.ที่จะไปอุบัติในกาลข้างหน้า...ทรงพระนามว่าพระศรีอาริยะเมตไตร..


7 เมษายน 2561
การใช้คาถา..ก็เหมือนการกินยา..ถ้าป่วยหนัก..จะพึ่งยาแก้ปวดชนิดเดียว..ก็ไม่ได้..ต้องพึ่งหลายชนิด..ต่างสรรพคุณ..
คาถา..5..แถวเกล้าฯรู้ภายหลังว่าเป็นคาถาเมตตามหานิยม..ผลที่ได้จากการทดลองใช้ย่อมเป็นที่รัก...แก่ภูติผี.ปีศาจ..และนางไพร..หรือถ้าท่านผู้ใดรักษาศีล แม้แค่ศีล..5.ย่อมชื่อว่ามีเกาะไฟ..กายของผู้นั้นย่อมเร่าร้อน...วิญญาณที่ประทุษร้ายมาสัมผัสย่อม.มอดไหม้
วรรค...ยังมีคาถาอีกหนึ่งบทที่เป็นเกาะคุ้มกาย.กำแพงมนต์..คือ..คาถามงคลจักรวาลทั้ง 8 ทิศ...
.เมื่อครั้งเป็นวัยรุ่น...เกล้าฯทำงานที่กรุงเทพฯจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านนอก..เกิด..มีเหตุ..ได้ไปเที่ยวโรงแรม..(ไม่มีรถเข้าหมู่บ้าน) ..แทนที่จะเสียใจ..กลับดีใจ..ที่จะได้ทดลอง..ไปนอนโรงแรม...แต่ก็อดหวั่นใจ..ไม่ได้..เพราะตามหนังสือนิยาย..ชอบเขียน..โรงแรมผีดุ.
.ตัวเองก็เป็นคนกลัวผี..จึงบอกกับ..เจ้าของโรงแรมว่า..ขอพักห้อง..ที่ไม่มีผีสิง...
ด้วยความกลัวผี...จึงคิดว่า..คาถา.เมตตา..นี้แหละจะเป็นที่พึ่ง..หลังสวดอิติปิโส...ก็สวดยันทุนฯแก้ฝันร้าย..จากนั้นก็สวดคาถา เมตตามหานิยม..
...พอล้มตัวลงนอน...(กายเนื้อหลับแล้วไหม..ไม่แน่ใจ..มันเหมือนเหตุการณ์จริง..)..แต่อีกกาย.(กายทิพย์)..เกิดรำคาญพัดลมเพดาน..ที่เปิดเสียงดัง..จึงเดินลงจากเตียง...ไปปิดพัดลม..อยู่สองสามครั้ง..ก็ปิดไม่ได้....จึงเดินกลับมาที่เตียง..ขณะที่จะล้มตัวลงนอน...ได้มีหญิงสาวสวยนางหนึ่ง..แต่งตัวเหมือนหญิงสาวไฮโซ..ใส่เสื้อเกาะอกสีทอง..เปิดเผยหัวไหล่อันขาวเนียน..เดินทะลุประตูห้อง..และมาถึงเตียงเกล้าฯอย่างรวดเร็ว...จะด้วยอำนาจมนต์..ของเธอหรืออำนาจกิเลส.ของเกล้าฯ..ก็ไม่รู้..แต่คงจะเกิดเป็นด้วยอำนาจของ..บุญกรรม..หรือไรก็มิทราบได้...จึงเป็นเหตุ..ให้ต้องมี.เรื่องชู้สาวกับเธอที่อยู่ต่างมิติ..ต่างภพ...
แต่..พอได้สติ..รู้สึกตัวตื่น...ตอนนั้นมันมีความรู้สึกว่า...ตัวเองไม่ได้สมยอม..แต่สิ่งที่เป็นคือยินยอม. 
มันรู้สึกว่าตัวเองเสียหาย..ก็กล่าวโทษผีสาวนางไม้(นางไม้ที่มากับเตียงนอน)...ว่าเธอมาใช้อำนาจมนต์กับเรา.......ก็เอาหละ..จะขอใช้อำนาจมนต์..ที่ยิ่งกว่า....ว่าแล้ว..จึงกล่าวบท..กำแพงมนต์...เพื่อปิดกั้นกระแสทางแห่งรักระหว่างภพ..ของมิติ..อีกแห่งที่แทรกโลกธาตุ.แม้เธอจะแสนสวย..แต่ตอนนั้น..คิดแต่เรื่องคนและผีไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้(จำมาจากหนังผีโปเยโปโลเย..อาจารย์ปราบผีกล่าวเช่นนั้น.)..จึงขอกล่าวใหม่..ลองคาถา...จนลืมไปว่าอีกดวงจิตหนึ่ง..นั้น.อาจจะร้องให้เสียใจ..ก็ได้..เพราะทุกจิตวิญญาณในแดนภพแห่งการเกิดดับนี้...ล้วนแต่.ต้องการเหตุผล...และคำอธิบาย....



อสุราเสนานาค..เรียบเรียง

ความจำเป็น..ในการอยู่ป่า..คือต้องมีศีล..
ถ้าเว้นจากศีลแล้ว..ก็อย่าคิดไปวิเวกที่ป่าช้าเลย
...
.26 ตุลาคม 2561
เรื่อง สร้างทานา
อนึ่ง..การทำบุญ..สร้างบารมี..เป็นสิ่งที่..มิควร..นำมาอวดอ้างกัน...ยิ่งผู้ยากไร้..เช่นเกล้าฯ..ก็รู้สึกประหม่า..ในการบอกว่าตนไปขนขวาย..บุญในที่ใดบ้าง......ขอรับ...แต่ก็จำต้องเขียนใว้...เผื่อเป็นจุดต่อ..ไอเดีย..
ให้ท่านอื่น...ไปริเริ่ม..ที่ดียิ่งกว่าตน...
...
กัมมุนา  วัตตติ โลโก...พุทโธ..ตรัส
.คือระหัส..ใช้จำแนก..แจกแจงสัตว์
ให้...หยาบ..ประณีต....ปานกลาง..นานาสารพัด
จะวิบัติ..หรือชั่ว.ดี...ที่..แรงกรรม
....
   
เรื่องศีล..เกล้าฯ..ก็เริ่มรักษาศีล.ตั้งแต่..อายุ 13 ปี..ตั้งแต่เป็นสามเณร...จบ นักธรรมโท....เรียนตามหน้าที่..สนใจเท่าที่เรียน..ต่อเมื่อได้ศึกษาธรรมะประวัติของ..หลวงพ่อชา.สุภัทโท.แห่งวัดหนองป่าพง.(ไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ..หลวงพ่อชา)....จึงรู้ว่า..ธรรมะเป็นเรื่องน่าศึกษา..ด้วยเหตุ..ชอบใจคำกล่าวของหลวงพ่อชา..ที่ว่า

"มรรคผล  ยังไม่พ้นสมัย 
 มีแต่คนโง่เท่านั้น..ที่บอกว่าในผืนดินไม่มีน้ำ..แล้วไม่ยอมขุดบ่อ"
..


บุญกิริยาวัตถุ.มี3 อย่าง...ที่สร้าง..ก็เหมือนท่านผู้อ่านทั้งหลายนั้นแหละ..มีทาน ศีล ภาวนา...ทั้ง 3 อย่างนี้...ก็รักษาและพยายามทำ..ทุกที่..ทุกโอกาส...เท่าที่กำลังจะทำได้..แบบลุ่มๆดอนๆ.ขอรับ
...
สถานที่ที่เคยไปบวชเนกขัมมะ..ที่เป็นสถานที่คนหมู่มาก..อาทิ

วัดธรรมกาย  คลองสาม..ปทุมธานี
วัดธรรมมงคล  สุขุมวิท101 กรุงเทพ
วัดเขาสมโพชน์   อ.ชัยบาดาล  จ.ลพบุรี

ทั้ง 3 แห่งนี้มีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน..วัดธรรมกาย..นี้จะมีเทคนิคการสอน..ฐานที่ตั้งของสมาธิ..อันแน่นแฟ้น.เหนือนาภี..2 องคุลี..ภาวนาคำว่า..สัมมาอะระหัง...


(การตั้งฐาน..สมาธิแบบนี้...ปรากฎมีตำราเก่าของพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน..ที่สอนที่ตั้งฐานของสมาธิเช่นนี้..)

วัดเขาสมโพชน์ นี้จะเน้นภาวนา..ยุบหนอ..พองหนอ..

วัดธรรมมงคล..สถาบันจิตตานุภาพ...เน้น..ภาวนา..พุทโธ
(ไปเรียนครูสมาธิ...รุ่น 30 ..แต่เรียนไม่จบ..)

ในเรื่องทาน...ถ้าไม่ฝันเห็น...กองบุญ...ก็ไม่กล้าทำมากเหมือนกัน....แต่ถ้าภิกษุเป็นผู้มีศีล..บริสุทธิ์.แม้รอนแรมไปไกลๆ..ก็ไป...แม้ไม่ฝันเห็นก็ไป.
การทำบุญของเกล้าฯ..ไม่ได้นับว่า..มากน้อยเพียงใดเพราะ....แม้ช่วยมดหรือแมลงออกจากโถส้วม...เกล้าฯ..ก็คิดว่าเป็นการสร้างบุญ...
...
เพราะพระพุทธองค์เคยตรัสว่า....ผู้สาดน้ำไปยังที่ลุ่มและที่ดอน...หากตั้งจิตปรารถนา...เพื่อยังให้สัตว์..ได้อยู่อาศัย..พระพุทธองค์ก็กล่าว..ว่าเป็นบุญ...ขอรับ

แต่ถ้าหาก..จะกล่าวว่า..มีการทำบุญ..ครั้งไหน.ที่เกิดนิมิตเห็น..ผลบุญที่จะได้...ถึงขั้นเทียมเทวโลก....ก็มีอยู่ครั้งเดียว...ขอรับ.
คือ..คืนหนึ่ง..เกล้าฯ..เกิดนิมิตว่า.
..เห็นลักษณะปราสาทยอดแหลม..สูงตั้งแต่พื้นโลก..ไปจนถึงเทวโลก..หรือที่ใด..ก็มิทราบได้..

พอฝันอย่างนี้..ก็รู้สึกแปลก..ก็ไม่คิดว่า..เป็นเรื่องของกองบุญ...แต่เมื่อล่วงไป..3 วัน ท่านครูบา.บัณฑิต อาจาโร...ท่านเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครู....มีกำหนดฉลองสมณะศักดิ์...และถวายทาน..และผ้าไตร..20 ไตร  แต่ในส่วนของผ้าไตรนี้...ท่านหาเจ้าภาพยังไม่ได้..
...
ท่านจึงโทรศัพท์มาบอกบุญ...เกล้าฯที่กรุงเทพฯ..ก็มาพิจารณา..ถึงนิมิต..ปราสาทยอดแหลม...ที่ฝันเห็นนี้..คงจะเป็นผลบุญอันยิ่งใหญ่..
...กอปรกับ...วันงานของท่าน..ก็จะถึงกำหนดแล้ว...ถ้าท่านครูบาอาจารย์(เจ้าอาสวัดป่าหนองนกเขียน)..ไม่เดือดร้อน.เรื่องเจ้าภาพไซร้...ท่านก็คงไม่มาบอก...ในระยะกระชั้นชิด.ขีดแดง.คืออีก 5 วันก็จะถึงกำหนดจัดงานแล้ว..
.อันเข้าลักษณะกรุงศรีอยุธยา..กำลังจะแตกพ่าย...ถอยร่น..ไม่เป็นขบวนเป็นแน่.......จึงกล่าวรับเป็นเจ้าภาพ.....
..
ผ้าไตร 20 ไตร ในราคา 30,000 บาท...คือท่านพระจารย์ท่านก็ให้ช่วยบอกบุญคนอื่นนั้นแหละขอรับ...
..แต่อุปนิสัยของเกล้าฯ...ก็เป็นผู้ขนขวยน้อย....
การบอกบุญในความรู้สึก..ก็เหมือนร้องให้ต่อหน้าผู้อื่น.ในกรณี.ถ้าเขาไม่มีศรัทธา..
แต่ถ้าหากเขามีศรัทธา...เขาก็ย่อมรื่นเริงในบุญ..ด้วยเหตุนี้
..จึงรับมาทั้งหมดเลย...
...
..แต่ในจำนวนกองบุญครั้งนี้...มีสหธรรมมิก..อุบาสิกา..วัยหนุ่มสาว...ท่านหนึ่งที่ร่วมรับรู้ในเหตุการณ์..ของการสนทนา..และรับรู้ความเดือดเนื้อร้อนใจ.ของพระเถระ...และมองเห็นอานิสงค์อันยิ่งใหญ่แห่งบุญ...จึงขอแบ่งส่วนในการสร้างทาน.จากเกล้าฯครึ่งหนึ่ง..จำนวน..15,000 บาท..
.....
แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์..อยู่ว่า...เธอไม่มีเงินที่จะทำบุญเลยด้วยเหตุแห่งรายจ่ายที่มีรอบด้าน..จึงขอยืมเกล้าฯ...เพื่อสร้างทานครั้งนี้..แม้เกล้าฯจะบอกว่า..มิต้องผ่อนคืน..เธอก็มิยินยอม
และหลังจากนั้น...เธอก็ติดหนี้บุญ

..และรักษาคำสัจนำงินมาผ่อนชำระ..เป็นรายเดือน..ขอรับ

..ในส่วนตัวของเกล้าฯ..ทานของเธอยิ่งใหญ่กว่าเกล้าฯ..ยิ่งนักเพราะเธอสร้างขณะชีวิตติดลบ..จนคิดว่าในโลกของเรายังมีบุคคลเช่นเธอผู้นี้..อาศัยอยู่..ในโลกด้วยหรือ..นี้.
...เธอผู้นั้น..ชื่ออภิสรณ์  เขื่อนคำ  เป็นครูสมาธิรุ่นที่ 30 ลูกศิษย์หลวงพ่อวิริยังค์  สิรินธโร แห่งวัดธรรมมงคล...ขอรับ

....
การสร้างบุญของเกล้าฯ...ก็มีครั้งนี้.แหละขอรับ.....ที่อัศจรรย์ในการสร้างมหาทาน...ของท่านผู้อื่น
และเป็นมงคลที่สุด...เพราะ..ได้ทำบุญกับผู้ทรงศีล..ทรงธรรมและเป็นอาจารย์ของตัวเอง....
ที่ครั้งในกาลก่อนเกล้าฯ..ก็เคยต้องอาบัติ..เพราะรักษาผ้าอันตรวาสก..ไม่ได้...ต้องอาบัตินิสสัคคียะปาจิตตีย์..(อาบัติ..เกี่ยวกับการรักษาผ้า 3  ผืน.ไม่ให้ล่วงราตรี)....
ท่านพระอาจารย์...ก็ให้ปลงอาบัติและกล่าวแนะนำในทางที่ถูก..ที่ควร
คือพระป่าจะรักษาศีลเคร่งครัด...แม้จะอาบัติเพียงเล็กน้อย...
ท่านก็ไม่ข้าม....ขอรับ


........วรรค.............


23 กุมภาพันธ์ 2562

เกล้ากระผมพึ่งกลับจากบ้านนอกมา..จังหวัดบึงกาฬ..ไปกราบหลวงพ่อใหญ่บ้านท่าไคร้..พระคู่บ้านคู่เมือง..ที่  ร.อ คำม้าว จันทวงศ์ ทหารชาวลาวบ้านปากบึงฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขง ก่อนออกรบจะมาขอพรหลวงพ่อพระใหญ่ทุกครั้ง เครื่องบินตก.3 ครั้งไม่ตาย..ที่มาของเรื่อง/กราบไหว้หลวงพ่อพระใหญ่-วัดโพธาราม/(คลิกชื่อวัด)วัดโพธาราม

หลวงพ่อใหญ่บ้านท่าไคร้..พระคู่บ้านคู่เมือง..ของชาวบึงกาฬ
ปางมารวิชัย(สะดุ้งมาร)
หรือปางปราบมาร..ตามตำนานท่านสร้างปีใดไม่ปรากฎ..แต่ตามที่เกล้ากระผมสันนิษฐานโดยธรรม..ก็อายุราวๆ..1,123ปี..ไม่มากกว่านี้และน้อยกว่านี้..ในอดีตชาวบ้านไปพบก็เป็นเถาวัลย์..ขึ้นปกคลุม..ท่านศักดิ์สิทธิ์มาก...
.ใครแม้มีเพียงรูปท่านบูชาท่านก็จะตามไปดูแลรักษาหมด...

วัดโพธาราม บ้านท่าไคร้ ตั้งอยู่ติดริมโขง...ห่างจากตัวจังหวัด..แค่ไก่บินตกหลายร้อยครั้ง..กล่าวตามจริง..ไม่เกิน  14นาที..นั่งรถไป..ถ้าขับไวก็..ใช้เวลาสั้นกว่านี้....ตอนเป็นวัยรุ่น..เกล้ากระผมเคยมารดน้ำพระ...และรองน้ำนำกลับมาด้วยในเทศกาล..สง(รดหรืออาบ)น้ำพระใหญ่...ซึ่งเป็นงานใหญ่ของจังหวัด...จัดทุกปีหลัง.สงกรานตร์..
....
เกล้าฯเองไม่ได้ไปกราบ..หลวงพ่อใหญ่นานแล้ว...เพราะมุ่งแต่ไปหาพระที่อื่น...สงสัยท่านหลวงพ่อใหญ่..คงรู้อุปนิสัย..ของเกล้าฯ..ที่ชอบเรื่องฤทธิ์จิตสัมผัส...พอได้ไปกราบท่านอีกครั้ง..พอก้าวขาลงจากรถ...สัมพื้นดินของวัดเท่านั้น....ก็มีอาการขนลุกขนพอง...ตั้งแต่หัวจรดเท้า 3 นาที.ก็หาย..ปกติไปวัดใดไม่เคยเป็นแบบนี้
(อย่างมาก.ก็ขนหัวลุก.อาทิก้าวเท้าแตะบริเวณ..ทางไปวัดถ้ำกองเพล.ที่อยู่ห่างเกือบ 1 กิโลเมตร)
....ก็เลยถามผู้ที่ร่วมคณะไปด้วยว่ารู้สึกเช่นใด...เขาบอกว่า..ขนลุกไปทั้งตัว...ยิ่งไปกราบท่าน..ก็ยิ่งมีคลื่นพลังมาปะทะ...ทำให้รู้สึกว่าท่านมีอานุภาพมาก....
เกล้ากระผมเห็นเหตุอัศจรรย์เช่นนี้..จึงกราบขอเป็นลูกของหลวงพ่อใหญ่บ้านท่าไคร้...
ครั้งในกาลก่อน..เคยมาแต่ท่านไม่เคยทำ.ปาฏิหาริย์ให้ตื่นสะท้านขนลุกขนพอง....มาบัดนี้..ท่านแสดงเหตุ...จึงมีความระมัดระวังในศีลของตัวเอง..มากขึ้น..นับแต่มากราบขอเป็นลูกท่าน..ตั้งแต่บัดนั้นแล....
.
ภาพ.มี 3 องค์ประกอบ
 1.ด้านหน้า..วิหารยกพระเสี่ยงทาย..และทำบุญบูชา..เครื่องราง..หลวงพ่อพระใหญ่..
มีบูชาตั้งแต่.50 99 120  ฯลฯ.หรือเหรียญรุ่นแรกเล็กๆ..ก็ราคา หนึ่งพันกว่าบาท..สร้าง..ในปี 2528..
แต่องค์ใหญ่ๆสวยๆ..200-300 ก็มีให้บูชา..แล้วแต่ศรัทธา

2.ด้านหลัง....พระอุโบสถ.ที่ประดิษยสถานหลวงพ่อพระใหญ่
3.ด้านข้างวิหารยกพระเสี่ยงทาย...เป็นที่ทำพิธีบรวงสรวงพญานาคทั้งหมดที่อยู่ลุ่มน้ำโขง..


สุภาพสตรี..สามารถอฐิษฐานขอพร..หน้าโบสถน์ได้.
..แต่มีป้ายห้ามผู้หญิงเข้า(เว้นแต่ผู้ชายเข้าได้)

คำขอพรจากหลวงพ่อใหญ่

ศาลาสำหรับสตรี..มากราบ.ขอพรหลวงพ่อใหญ่จำลอง..
(ตามภาพเกล้าฯกำลังปักธูป..มีพี่สาวและน้องสาวแม่(น้า)

ข้อห้าม..ในการกราบสักการะหลวงพ่อใหญ่...
..(ห้ามกันในท้องถิ่น.ในครอบครัวเท่านั้น)..
ห้ามมากล่าวคำสาบดสาบานอันใด..ที่ตัวเองมิสามารถทำได้...ก็อย่ามากล่าวให้ตนเองฉิบหายเลย...ถ้าหากแม้นยังมาเอ่ยคำสาบาน..ต่อหน้าพระใหญ่...ก็จะได้ฉิบหายวายวอดตามที่มัน..อีไอ้..เคยสาบด..สาบาน..มาแล้วนับแต่โบราณ...ที่มา..พ่อคำผิว สุวรรณ์..พ่อของเกล้ากระผมนี้แหละบอกเล่าตำนานความศักดิ์สิทธิ์...
หรือที่มีผู้กล่าวเตือนสติเผยแพร่...เพื่อมิให้ท่านคิดประมาท...ก็คลิก..
...
พิจารณาตามจริง...
การที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง..จะตายด้วยเหตุพระพุทธเจ้าทำร้าย..ให้ตายไปจะเป็นไปได้หรือ?...ในเมื่อพระพุทธเจ้าหลวงพ่อพระใหญ่เป็นเพียงผู้ปกปักษ์รักษา..ให้ผู้มาขอพรเจริญรุ่งเรือง..
..

การที่ผู้ใด..มากราบแล้ว..มีเหตุภายหลัง..ก็เนื่องจากเหตุแห่งวจีกรรม...หรือกรรมในอดีตเท่านั้น..ที่เป็นตัวให้ผล..ขอรับ

5 มีนาคม 2562

เรื่องเล่า.ประสบการณ์..บอกเล่าเรื่องราวปาฏิหาริย์..หลวงพ่อพระใหญ่...มีผู้รอดตายบางส่วนที่มีการจดบันทึกตำนาน...ให้ค้นหาที่www.พระประธาน-พระคู่บ้านคู่เมือง-๗๗-จังหวัด

5 มิถุนายน 2563
ช่วงต้นเดือนเกล้าฯ เดินทางกลับ กรุงเทพ-บึงกาฬ  โดยมอเตอร์ไชด์ ..อย่างเร่งด่วนเพราะทราบข่าวว่า..พ่อเดินแล้วจะหกล้มอยู่บ่อยครั้ง..แม่มีอาการปวดหลัง..เนื่องจากต้องการไปปรนนิบัติ พ่อแม่..จึงต้องเดินทางอย่างเร่งรีบ....

คืนที่เดินทาง รู้สึกตื่นเต้น นอนได้นิดเดียว เพราะไม่เคยขี่จักรยานยนต์ระยะไกล..อย่างมาก กรุงเทพ-ประทาย ก็ถือว่าไกลแล้ว...ด้วยวิตกต่างๆนาๆ จึงลุกขึ้นมาภาวนากลางดึก..และขณะที่ขี่รถก็นึกถึงหลวงพ่อพระใหญ่ตลอดเวลา..ไม่สนใจ สิ่งภายนอก...เพราะต้องการขี่ทำเวลา...พอขี่มาถึงปากช่อง..น้ำมันหมดเกลี้ยงถัง..ปกติถ้าหากหมด จะมีถังสำรอง...แต่วันนั้นเผอิญ เผลอ..ไปเปิดวาล์ว..ให้ใช้หมดทุกถัง...พอรู้ตัวก็รู้สึกไม่ตกใจมาก...เพราะอยู่ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน..แต่ที่ตกใจมากคือ กุญแจสำหรับเปิดถัง..ได้หล่นออกจากที่เสียบสำหรับสตาร์ท.,,ซึ่งการหล่นหายเช่นนี้...มันคืองานใหญ่..เพราะหลักๆ ไม่สามารถเปิดถังน้ำมันได้...
ยืนครุ่นคิดหนัก....สักพัก..เพราะไม่รู้กุญแจกระเด็นหายตั้งแต่เมื่อไหร่  จึงมองหากุญแจ...เดชะบุญ..พวงกุญแจได้พลัดหล่นลงมาค้างกับ.แตรมอเตอร์ไชด์..,ซึ่งมีขนาดเล็กนิดเดียว...จึงได้แต่คิดว่าเป็นบารมี หลวงพ่อพระใหญ่ 
คุ้มครอง...ให้แคล้วคลาด ในครั้งนี้

4 กรกฎาคม 2563
ทริป กรุงเทพ-บึงกาฬ
ขอขอบคุณ..พี่บอล...ที่เอารถมายก.รถKr150 ขึ้นรถกะบะโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย..เพื่อไปส่งปั๊มน้ำมัน ระยะทาง 1 กิโลเมตร..รถดับบนเชิงเขา อยู่ตรงข้ามปัํมน้ำมันก็จริง(..แต่ถนน 2 เลนทางโค้งอันตราย..มีเหล็กกั้นตลอดทาง.. )...ผู้นำมาส่งจะออกค่าน้ำมันให้..พร้อม..เงินค่าใช้จ่าย..ในการเดินทาง...ทุกๆอย่าง...แต่เกล้าฯบอกว่า..ขอบคุณ..และไม่ขอรับเงินช่วยเหลืออื่นใด...และเป็นนาทีฉุกละหุก..ในปั๊มน้ำมัน...คือ..กระเป๋าสะเป้หลัง..ของเกล้าฯ..ที่บรรจุ..ของมาหนัก..ขณะกำลังเติมน้ำมัน..ซิปได้ปริแตกทะลัก...เทกระจาย.....ตามพื้นปั๊มน้ำมัน....และพี่เขาก็เห็นว่า..กระเป๋าเงินเกล้าฯ...มีเงินติดตัว พี่เขาก็ขอตัวผละจากไป....เกล้าฯก็ร้อง..ขอบคุณพี่เขา...และก้มเก็บตังส์...เหรียญ..,ที่หล่นกระจายเต็มพืัน....

6 กรกฏาคม 2563
        ภาพ วัวหาย แล้ว ล้อม คอก..(ขากลับ..ติดถังน้ำมัน.ฉุกเฉิน)
พาพ่อมากราบ สักการะ หลวงพ่อใหญ่บ้านท่าไคร้

***มีเรื่องแปลกประหลาด..สำหรับการเดินทาง..ครั้งนี้คือ..ได้เจอพี่คนหนึ่ง..ที่เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลของสาขา..และเคยเป็นผู้ร่วมฝึกสอนเทคนิคสอนงาน...การลงโฆษณา.ก่อนหนังฉาย.การทำFlimหนัง คือบริษัทหนังจะส่งมาเป็นม้วนฝ่ายฉายนี้แหละต้องทำม้วนหนัง 5-6 ม้วน ให้ฉายให้จบในม้วนเดียว(แตกต่างจากหนังกลางแปลง..ที่รอต่อทีละม้วน..) .ตลอดถึง การควบคุมงานฉาย ภาพยนต์ ฯลฯในเครือโรงหนัง EGv 14 (คือมี 14 โรง)ตามจริง..เป็นเพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ที่ให้เคารพอย่างยิ่ง..อัทยาศรัยดี..อารมณ์ดีมาก..จะมีความพอใจ..และรู้สึกสนุกทุกๆครั้งที่ได้ร่วมงาน.ที่ได้เห็นในทุกๆวันอย่างไม่รู้สึกเบื่อ.หลังจาก ไม่ได้เจอกัน..มาเกือบ 20 ปี..ไม่นึกไม่ฝัน..ว่าจะเจอกัน..ที่เซเวน ปั๊มน้ำมัน..ที่เกล้าฯ..ทำเหรียญ..กระจายเต็มพื้นแห่งนั้น..ซึ่งตามไทม์ไลน์ พี่เขาอยู่พิษณุโลก..เกล้าฯ อยู่บึงกาฬ..เคยร่วมงานกันที่ EGv(Entertain Gloden Village)ซีคอนสแควร์.กรุงเทพ(ตำแหน่งProjectionnist.พนักงานฉาย)มันเป็นเรื่องยาก.มาก..ที่จะพบเจอกัน..

มันเป็นปาฏิหาริย์..แห่งบุญ,จริงๆ...ที่ได้เจอ...ได้แต่คิดว่า..บางทีโลกก็แคบ..เผอิญ..พี่เขามามีครอบครัว..ที่ปากช่อง.มันเป็นเรื่องบังเอิญ....

ใช่ ศักย์ศรณ์ ไหม? พี่โก๊ะ ถาม 2 ครั้ง เพราะไม่แน่ใจ ทุกๆคน ในเซเวน ต่างอยู่ในสถานการณ์  กลัวโรคโควิช ต่างปิดหน้าด้วยแมส...ยากแก่การจดจำใบหน้า
เกล้าฯ..ก็เป็นมนุษย์สล๊อตค่อยๆหันมองรอบข้าง..ก่อนจะเห็นดวงตา ที่คุ้นเคย บวก กับน้ำเสียง จึงทัก ไปว่า พี่โก๊ะเหรอ...แล้วประโยค 4-5-6 ก็ตามมา...มันเป็นความดีใจที่ได้เจอกัน...ถามสารทุกข์สุกดิบ..ได้ให้สิ่งที่จะไม่ให้หลุดวงโคจรแห่งชีวิต(แลกเบอร์โทร).และกล่าวคำอำลา...เพราะนาฬกาชีวิตของแต่ละฝ่าย..มีขีดจำกัด...
..
และ..ขณะ ที่กำลัง จะไปจ่ายเงิน...ที่เคาเตอเซอร์วิช...พลัน..เจอพี่โก๊ะอีกครั้ง...ที่กำลังรอจ่ายตังส์...รู้สึกสะดุ้งเล็กน้อย
...เพราะ...
โดยมารยาท...เมื่อเราได้กล่าวคำอำลาต่อผู้อื่นแล้ว...เราก็ไม่ควรไปเสนอหน้า..หรือพบเจอกับเขาอีก..คือ.ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม..สักระยะ

....เกล้าฯก็เอายังไงดีหว่า.นึกว่าพี่เขาออกจากร้านไปแล้ว...ก็เลยเดินอ้อม...ไปด้านหลังพี่เขา...ทำทีไม่เห็น..และมองหา..สิ่งของที่ต้องการ...ที่ยังไม่ครบ..ทั้งที่ตามจริง...ก็ไม่มีอะไร..จะซื้อแล้ว....